ลายมือปริญญาเอก (ดุษฎีบัณฑิต –Ph.D.)
ลายมือระดับ ดร. (ดอกเตอร์) ลายมือปริญญาเอก หรือ ลายมือดุษฎีบัณฑิตเป็นอย่างไร ดูเส้นอะไรเป็นหลัก
ลายมือปริญญาเอก
ลายมือ อัจฉริยะ IQ140
การเรียนปริญญาเอก คือ การเรียนรู้ปรัชญาของชีวิต ก่อนจะเรียนระดับปริญญาเอกหรือดุษฎีบัณฑิตได้ก็ต้องผ่านขั้นตอนการเรียนดังนี้
1.ปริญญาตรี (บัณทิต หรือ Bachelor's Degree) ในภาษาไทย ใช้ตัวย่อ (อักษรย่อหลักสูตร) บ. สำหรับภาษาอังกฤษ ใช้ตัวย่อ B.(อักษรย่อหลักสูตร)
2.ปริญญาโท (มหาบัณฑิต หรือ Master's Degree) ในภาษาไทย ใช้ตัวย่อ (อักษรย่อหลักสูตร) ม. สำหรับภาษาอังกฤษ ใช้ตัวย่อ M.(อักษรย่อหลักสูตร)
3.ปริญญาเอก (ดุษฏีบัณฑิต หรือ Doctoral Degree) ในภาษาไทย ใช้ตัวย่อ (อักษรย่อหลักสูตร) ดร. สำหรับภาษาอังกฤษ ใช้ตัวย่อ D. หรือ Ph.D.(อักษรย่อหลักสูตร) ตามด้วยอักษรย่อของแต่ละสาขาวิชา ดังตัวอย่าง เช่น คณะปรัชญาและศาสนา (Ph.D. of Philosophy Program in Philosophy and Religion) หรือ Faculty of Education (Ph.D. Educational Administration and Leadership) หรือหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ-Doctor of Philosophy Program in Information Technology : Ph.D.(IT)
คนที่จะเรียนปริญญาเอกได้เส้นสมองมีอะไรดีเป็นพิเศษกว่าคนทั่วไปหรือไม่ เส้นลายมือ บอกได้หรือไม่ว่าคนนี้เรียนจบถึงระดับดุษฎีบัณฑิต ดูลายมือคนที่จบปริญญาเอกต้องดูลายมือที่เส้นสมองเป็นหลักหรือไม่ หรือดูประกอบกับเส้นอื่นใดอีก ในเดือนธันวาคม 2554 ผมโชคดีมากที่ได้รับภาพลายมือของบุคคลที่เรียนจบปริญญาเอกถึง 2 ท่าน(ท่าน ได้ส่งภาพลายมือมาดูลายมือทางอินเตอร์เนท แบบ 349 บาท) ซึ่งท่านทั้งสองมีหน้าที่การงานในตำแหน่งสำคัญยิ่ง ท่านเป็นคนไทยแต่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ท่านหนึ่งได้ทุนเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเรียนจบก็ทำงานต่อที่นั่นเลย(จบ ปริญญาเอกเมื่ออายุ 28 ปี ปัจจุบันทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น อายุท่าน 29 ปี-พ.ศ.2554) อีกท่านหนึ่งไปเรียนที่ประเทศอเมริกาด้วยเงินทุนส่วน ตัวโดยการทำงานไปพร้อมกับเรียนไปด้วย ตอนนี้ได้ทำงานเป็นถึงระดับผู้อำนวยการควบคุมการผลิตในรัฐหนึ่งของประเทศ อเมริกา (ปัจจุบันท่านอายุ 39 ปี) และที่สำคัญกำลังจะประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในสหรัฐด้วยจึงได้ส่งลายมือมาเพื่อปรึกษาว่าการทำธุรกิจจะดีหรือไม่ มีอะไรที่ควรระวัง
ผมจะนำลายมือของ ดร. (คนเรียนจบปริญญาเอกจะใช้ ดร.นำหน้าชื่อ) ทั้งสองท่านมาให้ท่านที่สนใจได้เรียนรู้และศึกษาพร้อมกับการวิเคราะห์ประกอบพอสังเขป ดังต่อไปนี้
ผมขออนุญาตสงวนชื่อและนามสกุลจริงของท่านไว้ แต่ผมจะใช้ประเทศที่เรียนเป็นชื่อแทนของทั้งสองท่าน
ดร.สหรัฐอเมริกา
ภาพลายมือ 6 ภาพ
มือซ้าย 3 ภาพ คือหลังมือ ฝ่ามือ ฝ่ามือส่วนขยาย
มือขวา 3 ภาพ คือหลังมือ ฝ่ามือ ฝ่ามือส่วนขยาย
ลักษณะมือเป็นแบบมือใบพาย เล็บใบพาย
การให้คำพยากรณ์ลายมือ ผมก็ได้ทำการพยากรณ์ไปตามมาตรฐานในการพยากรณ์ของผมที่กระทำอยู่เป็นประจำ ค่าพยากรณ์ 349 บาท จะได้รับคำพยากรณ์ 9 ข้อ และตารางพยากรณ์เหตุการณ์แยกเป็นรายเดือนอีก 12 เดือนล่วงหน้านับตั้งแต่ััวันที่พยากรณ์ไปอีกประมาณ 1 ปี
ผม ไม่ทราบมาก่อนหรือมีข้อมูล่วนตัวใด ๆ นอกจากวันเดือนปีเกิดและภาพลายมือที่ส่งลายมือมาให้คือได้รับข้อมูลจากทางอี เมลตามปกติ ไม่ทราบว่าเป็นใคร เรียนจบอะไร ทำงานอะไร มียศมีตำแหน่งหรือไม่ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2554 ผมได้ส่งคำพยากรณ์ พร้อมกับตารางพยากรณ์กลับไปทาง email เหมือนปกติทั่วไป (อ่านเพิ่มเติมคำพยากรณ์ที่ผมส่งไป-แบบไม่ตัดทอนพร้อมกับตารางพยากรณ์ คลิกอ่านที่นี่)
วันที่ 15 ธันวาคม 2554 เวลาประมาณ 19.00 น มีสายเรียกเข้ามือถือ แต่ไม่แสดงเบอร์โทรศัพท์เหมือนทั่วไป หน้าจอโทรศัพท์ ที่ผมรับสายประจำคือ 081 920 9349 แสดงที่หน้าจอว่า "เบอร์ส่วนตัว" คิดในใจแวบแรกว่าคงเป็นเบอร์ที่ชอบอ้างว่าโทรจากธนาคาร มีเสียงผู้หญิงพูด แล้วบอกว่าบัตรเครดิตมีปัญหา... ปกติก็จะกดรับและก็ฟังสักพักก็ตัดสายทิ้ง ความตั้งใจก็ว่าจะทำอย่างนั้นอีกเช่นกัน แต่พอรับสายกลับเป็นเสียงผู้ชายและก็ไม่ชัดเจนในเบื้องต้น แต่ก็ชัดเจนขึ้นในลำดับถัดมา หลังจากได้ทักทายและแนะนำตัวกันเบื้องต้น ท่านที่โทรมาก็เริ่มพูดถึงวัตถุประสงค์ที่ติดต่อมาว่า
" ผมไม่ได้อยู่เมืองไทย ผมโทรจากอเมริกา ผมได้รับคำพยากรณ์แล้ว คำพยากรณ์ของอาจารย์ธนพงศ์ ที่พยากรณ์ให้ผมแม่นและตรงมากครับ"
ผม ก็กล่าวตอบขอบคุณไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ผมก็เคยได้รับอยู่บ่อย ๆ นอกจากนั้นยังมีบางท่านที่โทรกลับมาสอบถามเพิ่มเติมที่อาจไม่เข้าใจหรือไม่ แน่ใจในบางจุดบางเรื่องที่ได้พยากรณ์ไปก็มีเป็นจำนวนไม่น้อย (แต่ที่โทรกลับมาต่อว่ายังไม่เคยมี) สำหรับท่านนี้บอกว่าโทรจากอเมริกาคิดว่าคงมีอะไรที่พิเศษแน่ก็เลยไถ่ถาม เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพการงานหรือการดำเนินชีวิตที่นั่น จึงได้รู้ว่า ท่านมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการควบคุมงานด้านการผลิต ท่านเรียนด้วยทุนตัวเอง ใช้ชีิวิตด้วยความวิริยะ ด้วยความอุตสาหะกระทั่งเรียนจบระดับปริญาเอก และได้อาชีพการงานที่ดีทำ ในขณะเดียวกันท่านก็กำลังจะทำธุรกิจของตัวเองโดยการเปิดร้านอาหารไทยที่ สหรัฐในมลรัฐที่ท่านทำงานอยู่นั่นเอง ผมก็ได้รู้จักกับเจ้าของลายมือนี้ด้วยเหตุดังกล่าว อนึ่งผมได้ขอประวัติท่านอย่างย่อ ๆ และท่านก็ยินดีให้เพื่อใช้เป็นต้นแบบหรือแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นหลัง ด้วยเพราะท่านเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความวิริยะ อุตสาหะ เป็นเลิศ ท่านเป็นเด็กบ้านนอก เป็นลูกชาวบ้านคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนวัด มาเรียนที่กรุงเทพเริ่มต้นด้วยสายอาชีวะ (ชั้น ปวช.) แต่ใจอยากและมีความฝันที่จะเป็นวิศวกร และท่านก็ก้าวไปถึงตรงนั้นได้ และไม่ใช่วิศวกรธรรมดา แต่เป็นวิศวกรปริญญาเอก ซึ่งเป็นปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา
มือแบบนี้ทำธุรกิจได้หรือเรียกว่าทำแล้วประสบผลสำเร็จครับ แล้วผมจะวิเคราะห์เพิ่มเติมให้ท่านที่เข้ามาอ่านได้ศึกษาว่าคนจะทำธุรกิจได้ นั้น รูปแบบมือ เส้นในมือควรจะมีอะไรเป็นสาระสำคัญประกอบกันบ้าง และธุรกิจการงานอะไรที่เหมาะกับมือแบบไหน คนเราบางทีจะว่าไปเรื่องดวงหรือสิ่งที่ปรากฏบนลายมือมันก็บอกอะไรได้ หลายอย่าง ผมเองก็เริ่มต้นจากความที่ไม่เชื่อ เป็นนักพยากรณ์ลายมือทั้งที่ไม่เคยมีความเชื่อเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่พอได้ศึกษาและทดลองเป็นเวลานานเข้า มากขึ้น ก็ค้นพบบางอย่างว่าสิ่งที่แสดงอยู่ในใฝ่มือของแต่ละคนนั้นคือสัญลักษณ์ทาง ภาษาหรือดัชนีชี้ชัดอะไรบางอย่างให้เจ้าของมือได้ทราบ เพียงแต่เราเองไม่ได้เรียนรู้หรือทำความเข้าใจที่มากพอก็เลยอ่านไม่ได้ เปรียบไปก็เหมือนภาษาที่เราไม่รู้จัก กว่าจะอ่านออกเขียนได้ก็ต้องใช้เวลาศึกษาเรียนรู้และฝึกฝน พอเราไม่รู้ว่าที่จริงในมือเรามีอะไรบอกถึงเส้นทางเดินของชีวิตก็จึงเดินไป ข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ดวงดีก็เหมือนมีบุญเก่าหรือทำบุญมาดีแล้ว หรือมีอะไรพิเศษคุ้มครอง จะอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันจะมีหลายอย่างเกื้อกูลให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้เพียงแต่อาจช้าไปจากปกติ ที่ควรจะเป็น แต่ตรงกันข้ามกับคนที่ดวงไม่ดี และก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองมีอะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุง การดำเนินชีวิตไปก็ไม่ต่างจากคนที่เดินทางเข้าไปในสถานที่ใด ๆ ก็ตามที่เราไม่รู้จักและไม่มีแผนที่ กว่าจะรู้ได้ว่าอะไรคืออะไร ทิศทางไหนไปทางไหน เวลาก็เสียไปมากแล้ว ซ้ำร้ายทรัพยากรที่เป็นทุนเป็นเสบียงก็หมดเปลืองไปและเหลือน้อยแล้ว การไปถึงเป้าหมายก็เป็นไปได้ยากลำบาก หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย ต่อไปนี้เรามาดูมือ ดร.สหรัฐ ว่าทำไมผมจึงบอกว่ามือนี้ทำธุรกิจประสบผลสำเร็จ
1. ความหนาของมือและเนินในมือ
มือควรจะมีความหนาไม่น้อยกว่า 3.0 ซ.ม. แต่ก็ไม่ควรจะหนามากเกิน 3.5 ซ.ม. การ วัดมือหนาหรือบาง วัดจากแนวเนินจันทร์ ต่อเนินอังคารสูง มือด้านนี้ภาษาหมอดูลายมือเรียกริมมือ คนมือหนาเนินในมือมักจะสมบูรณ์ แต่ก็มีบ้างที่ไม่เป็นอย่างนั้น บางคนมีือเป็นแ่อ่งลึกกลางมือ หรือบางมือก็อาจมีเนินจันทร์และเนินศุกร์หนา แต่เนินอื่น ๆ แฟบแบนก็มี มือหนาที่มีคุณภาพจะต้องเป็นมือหนาที่มีความหนาสมดุลระหว่างเนินศุกร์กับ เนินจันทร์ เนินอื่น ๆ ในมือก็หนาในลักษณะที่มีความพอเหมาะกับสองเนินดังกล่าว แต่ถ้ามือหนามาก เนินต่าง ๆ ในมือนูนมากเกินไปก็ไม่ดี (อะไรก็ตามมากไปน้อยไปก็ไม่ดี) ถ้าเนินสูงมากเกินไปเป็นลักษณะของความต้องการที่มากเกินพอดี หรือเป็นความโลภ การแสดงออกทางกาย การทำมาหาได้ทางวัตถุมักจะไ้ด้มาจากความไม่เหมาะสมหรือใสสะอาดเท่าที่ควร ซึ่งมักจะมีผลไม่ดีกับตัวเองและผู้อื่น
มือหนามือบางมีความหมายต่างกันมาก เช่นเดียวกับมือแข็งกับมือนุ่ม มือนิ่มเหลว มือหนาแสดงถึงความแข็งแรงทางร่างกาย มือหนาแสดงถึงพลังทางกายภาพ แสดงถึงพลังการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์ สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความรู้สึกความต้องการตามปกติตามธรรมชาติมากกว่า มีความต้องการทางวัตถุ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น มีมากกว่าคนที่มือบาง ความต้องการไม่ เป็นเพียงแต่ความคิด แต่ยังลงมือกระทำด้วย นี้คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จแรกคือศักยภาพทางกาย(การกระทำ) ที่ตอบสนองต่อสมอง(ความคิด) และใจ (จิตใจ-อารมณ์)
เส้นหลักในมือซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่หรือสายกระแสหลักของชีวิต
ภาพประกอบ 1
ภาพประกอบ 1
1.เส้นชีวิต
กระแสหรือพลังที่ส่งหรือไหลสนับสนุนชีวิตทำให้ร่างกายมีพลังมากน้อยเพียงใดดูได้จากเส้นชีวิต (เส้นหมายเลข 1) ทั้งสองมือเป็นเส้นคมชัดลึก ไม่แตก ไม่ขาด ไม่เป็นเกาะ หรือโซ่ สื่อถึงสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังที่เข้มแข็ง มีความต่อเนื่องในการกระทำ เส้นชีวิตเกิดร่วมกันกับเส้นสมองในมือซ้ายรวมกันยาวต่อเนื่องออกมาค่อนข้าง มากว่ามือขวา หมายถึงเป็นคนละเอียดรอบคอบ อาจไม่กล้าตัดสินใจในเบื้องต้นด้วยเพราะความที่ผู้ใหญ่หรือครอบครัวดูแลแบบ ถนอมหรือให้ความรักความห่วงใยแบบใกล้ชิดมาก แต่ก็มีการพัฒนาและเป็นผลดีในชีวิตในลำดับต่อมา(มือขวาเส้นเกิดร่วมกับเส้น สมองระยะไม่ยาวเหมือนมือซ้าย) เส้นชีวิตมีลักษณะโค้งอ้อมเนินศุกร์กินพื้นที่ไปทางเนินจันทร์ทั้งสองมือ หมายถึงชีวิตครอบครัวมีความรักความสุข แต่ชีวิตมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง การเดินทาง การย้ายถิ่นที่อยู่ เส้นชีวิตในมือขวายาวต่อเนื่องและมีเส้นแยกออกตรงเนินหลักทรัพย์ หมายถึงชีวิตในบั้นปลายมีความมั่นคงด้วยหลักทรัพย์ ทรัพย์สินเงินทอง ในขณะที่มือซ้ายเส้นชีวิตไม่ต่อเนื่องช่วงบริเวณเนินศุกร์ แต่ก็มีเส้นวาสนาเกิดขึ้นรองรับตั้งแต่ตำแหน่ง A-1 รวมถึงมีเส้นเดินทางที่ออกจากฐานเนินศุกร์สองเส้นมาเชื่อมรวมกันกับเส้น วาสนาในมือซ้ายสื่อถึงชีวิตจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมีการย้ายที่อยู่และการ ย้ายการเปลี่ยนแปลงไปรวมกับเส้นวาสนาที่ดีจึงมีความเจริญรุ่งเรืองจากการ ย้ายที่อยู่หรือการเปลี่ยนแปลง ในมือขวามี เส้นเดินทางออกจากเนินศุกร์ หนึ่งเส้นมาหยุดอยู่ที่เนินหลักทรัพย์ ก็สื่อถึงการย้าย การเดินทางมีความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงด้วยหลักทรัพย์ หรือมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศในช่วงสุดท้ายของชีวิต หรือในทางกลับกันการอยู่ต่างประเทศจะดีอย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็จะย้ายกลับหรือได้ย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ตัวเองตั้งเป้าหมายหรือ วางแผนไว้
2.เส้น สมอง ตำแหน่งหมายเลข 2 เส้นสมองคือเส้นที่สื่อถึงคุณภาพหรือสมรรถภาพทางสมอง การคิดคำนวณ การใช้เหตุผล และวิธีหรือกระบวนการทางความคิด การตัดสินใจ ซึ่งจะทำงานสัมพันธ์กับจิต หรือจิตใจ(ทัศนคติ อารมณ์) ในภาพแสดงตำแหน่งเส้นหลัก อาจมองไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ตรงทิศทางหรือปลายเส้น ให้ไปดูที่ภาพปกติทั้งสองมือ จะสังเกตเห็นเส้นสมองยาว คม ชัด ลึก สีสดใสตามปกติ ไม่แตก ไม่ขาด ไม่เป็นเกาะ ไม่เป็นรูปโซ่ สื่อถึงกระแสที่ส่งไปยังสมองได้สมบูรณ์ต่อเนื่อง (เปรียบเหมือนเส้นเลือดไปเลี้ยงสมอง) สมองจึงได้รับกระแสที่มีคุณภาพได้อย่างเต็ม เส้นสมองในมือนี้ปลายเส้นสมองทั้งสองมือแตกต่างกันคือเส้นสมองในมือซ้ายปลาย เส้นยกขึ้นเล็กน้อยช่วงแนวเนินอาทิตย์ สื่อถึงสมองคิดถึงเรื่องที่เกินตัว เป็นคนที่มีความคิดที่พิเศษ สมองที่กล้าคิดและกล้าที่จะทำตามที่คิด ส่วนปลายเส้นก็อยู่ระหว่างเนินจันทร์กับเนินอังคารสูง สื่อถึงความเป็นคนพอเหมาะพอดี รู้จักกาละ เทศะและการวางตัวไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสถานะและสังคม ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ เป็นที่ชื่นชอบรักใคร่ของคนที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด คนที่จะประสบผลสำเร็จในชีวิตไม่ใช่จะมีแต่ความฉลาดทางสมอง (IQ) ความฉลาดทางอารมณ์(EQ)ทำให้คนสมบูรณ์พร้อมขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
3.เส้นใจหรือจิตใจ ตำแหน่งหมายเลข 3 โปรดสังเกตว่าจะมีตำแหน่ง 3-1 และ 3-2 เข้ามาเกี่ยวข้องในมือทั้งสอง เส้นใจหรือจิตใจสื่อถึงพลังจิต พลังใจ หรือกำลังใจที่แต่ละคนมีอยู่ในตัวเอง รวมถึงความคิด ทัศนคติของเจ้าของมือ เส้นใจที่สมบูรณ์ ไม่แตกไม่ขาด ไม่เป็นเกาะ ไม่เป็นโซ่เหมือนในมือนี้แสดงถึงการได้รับพลังจิต หรือเจตคติ(Attitude) ที่มีคุณภาพ เส้นใจในมือซ้ายตำแหน่งยาวไปถึง 3-1 คือเนินพฤหัส คนที่มีเส้นใจยาวถึงตรงตำแหน่งนี้คือคนที่มีพลังใจที่ดีเยี่ยม มีความมั่นคงทางจิตใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต และมีลักษณะการนำหรือการเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ส่วนเส้นใจในมือขวาโค้งเข้าเนินเสาร์ แต่เหลื่อมเยื้องไปในทางเนินพฤหัส เส้นใจแบบนี้สื่อถึงเจ้าตัวเป็นคนทีมีใจศรัทธา และรักในเกียรติ รักในศักดิศรี
อนึ่งขอขยายความคำว่าศรัทธาสักเล็กน้อย ความศรัทธาคือความเชื่อบางอย่าง ความเชื่อว่า.. เพราะเชื่อว่า....ความศรัทธาเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่มาก แรงศรัทธาคือจุดเริ่มต้นอันสำคัญของคนเรา หากคนเราปราศจากศรัทธาใด ๆ แล้ว จะไม่มีความสำเร้จใดเกิดขึ้นกับชีวิต ในทางกลับกันหากความศรัทธาเป็นความศรัทธาที่ขาดปัญญา หรือเป็นศรัทธาทางอกุศลประกอบแล้ว ความศรัทธาอย่างนั้นก็จะสร้างความเสียหายให้กับตนเองและสังคมได้อย่างมากมาย
เมื่อในมือมี 3 เส้นหลักนี้ดีแล้ว เพียงพอต่อความสำเร็จในการดำเนินชีวิตแล้วหรือไม่ ขอให้ทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกว่า คนเรา ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ทำดี(กาย=เส้นชีวิตมีคุณภาพดี) ,วาจาดี (คิดดี พูดดี -สมองดี=เส้นสมองมีคุณภาพดี) จิตใจดี (มีพลังสร้างสรรค์ มีความพยายามดี มีเป้าหมายดี =เส้นใจมีคุณภาพดี) หาก คิดว่าพอก็ถือว่าพอและดีแล้ว คนมีเส้นหลัก 3 เส้นนี้ดีคือคนที่มีความสุขในการดำนเนินชีวิต แต่คนเรามีอะไรที่มากกว่านี้อีกมากเป็นเครื่องปรุงแต่งให้ชีวิตมีสีสรรค์ และแตกต่างออกไป เพราะ 3 เส้นหลักและเนินในมือคือพื้นฐานหลักที่สำคัญ หากใครมีครบสมบูรณ์ก็เชื่อได้ว่าชีวิตจะไม่ขาดพร่องด้วยปัจจัยหลักของความจำ เป็นในการดำเนินชีวิต แต่อาจไม่มีมากด้วยวัตถุ หรือสิ่งอำนวยความสะุดวกทางโลก หรือที่เรียกว่าความร่ำรวย ด้วยทรัพย์สินเิงินทอง เส้นลายมือที่มีในมือดังต่อไปนี้จะเป็นตัวชี้วัดตัดสินชี้ขาดว่า ใครจะร่ำรวยหรือประสบผลสำเร็จที่ได้รางวัลตอบแทนเป็นทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งเป็นดัชนีชี้ัวัดความสำเร็จทางโลก (ส่วนทางธรรมหรือคุณธรรม ความดีงามก็ต้องดูจากผลกรรม เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่มองไม่เห็นด้วยตา ต้องใช้เวลาและองค์ประกอบอื่น ๆ วัดอีกทางหนึ่ง)
ภาพลายมือ 2 ข้างของ ดร.สหรัฐที่จะได้นำมาวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อให้เห็นเส้นจริงในมือ ปัจจุบันท่านมีอายุ 39 ปี (พ.ศ.2554)
ภาพชุด A
ภาพ A1
ภาพ A2
ภาพขยายมือซ้ายและมือขวา ภาพชุด A ลดขนาดลงมาอาจมองไม่เห็นรายละเอียดเส้นทั้งหมด แต่ก็พอดูได้โดยผมจะแยกภาพ (ภาพด้านล่าง) ภาพประกอบ B มา ทำเครื่องหมายประกอบมาเพิ่มเติม เพื่อจะได้ดูเปรียบเทียบกับภาพต้นฉบับทั้งสอง (ภาพด้านบน A1, A2)ได้ บางตำแหน่งก็อยู่ในมือซ้าย บางเส้นก็อยู่ในมือขวาแต่ผมจะอธิบายจากภาพประกอบเพียงมือเดียว แต่เส้นทั้งหมดที่ทำขึ้น 9 ตำแหน่ง มีอยู่จริงในมือคู่นี้ทุกเส้น
ภาพประกอบ B (เพื่ออธิบายภาพชุด A)
พยากรณ์และวิเคราะห์ลายมือ ดร.สหรัฐ 9 ตำแหน่ง
ดูประกอบไปพร้อมกันกับ ภาพประกอบ 1 , ภาพมือ A1,A2 และ ภาพประกอบ B
1.เส้นวาสนา (ตำแหน่งหมายเลข 1) คือเส้นใด ๆ ที่มีทิศทางเข้าเนินเสาร์(เนินใต้นิ้วกลาง) เรียกอีกอย่างว่าเส้นโชคหรือโชคลาภก็มักเรียกกันจนติดปาก เส้นวาสนาเป็นเส้นพี่เลี้ยงเส้นชีวิต ถ้าในมือไม่มีเส้นชีวิตหรือเส้นชีวิตขาดให้ดูเส้นวาสนาแทน ที่จริงในความหมายที่ถูกต้องแล้ว คำว่าโชคกับลาภต่างกัน (คลิกอ่านโชคดีกับโชคลาภต่างกันอย่างไร) (ดูเพิ่มเติมตามภาพประกอบ 1 ที่ตำแหน่ง A-2 ในมือซ้าย และตำแหน่ง A-1 ในมือขวา) ในมือขวาคือตำแหน่งของต้นเส้นวาสนาของมือคู่นี้ มี่ความหมายที่สำคัญที่จะตัดสินได้ว่ามือคู่นี้จะโชคดีมากน้อยเพียงใด
เส้นวาสนาทั้งสองมือไปสิ้นสุดที่เส้นใจพูด ให้สื่อในทางการพยากรณ์ลายมือก็ต้องพูดว่าเส้นวาสนาไปถึงใจความหมายก็ประมาณ นั้นคือได้ดังใจ เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ (ดูเส้นใจประกอบแล้วในมือนี้ก็ยืนยันได้ตามนั้น) มีตำแหน่งที่เกิดของเส้นวาสนาเข้ามาร่วมพิจารณาเพื่อขยายความอีกสักหน่อยก็ คือ มือซ้ายเส้นใจเกิดจากตำแหน่งที่ต่ำลงมาทางฐานมือลงมาทางสร้อยข้อมือ เส้นวาสนาเกิดระว่างเนินจันทร์กับเนินศุกร์ แล้วลากตรงขึ้นไปเนินเสาร์ เส้นตั้งตรงเหมือนขึ้นภูเขาที่สูงชันหรือขึ้นแนวดิ่ง การเดินการปีนก็ยากลำบาก (ต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก) เส้นวาสนาแบบนี้ก็สื่อออกมาแบบนั้น ชีวิตไปถึงเป้าหมายได้ แต่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคอย่างหนักหน่วงให้ได้เสียก่อน หากสังเกตให้ดี ตรงตำแหน่ง A-2 (มือซ้าย) จะมีเส้นที่ลากเข้ามาเชื่อมกับเส้นวาสนาทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งมาจากเนินจันทร์ (คลิกอ่านเรื่องเนินในมือ) สื่อ ถึงว่าวาสนาจะได้เิดินทางไกลไปต่างแดน อีกหนึ่งตำแหน่งมีเส้นมีเส้นสองเส้น ลากออกจากฐานเนินศุกร์และมีเส้นหนึ่งเชื่อมเข้ากับเส้นวาสนา หมายถึงชีวิตต้องมีการย้ายถิ่นฐาน ย้ายครอบครัวไปตามที่วาสนาพาไป และเส้นวานสาเส้นนี้สื่อถึงการย้าย การเปลี่ยนแปลงเป็นไปในด้านดี เจริญรุ่งเรืองขึ้น (เส้นวานสาลากยาวไปถึงเส้นใจ) ในมือนี้แม้เส้นวาสนาหลักดูเหมือนจะขาดช่วงไปแต่ก็มีเส้นลากมาจากเนินจันทร์ โค้งเข้ามาเชื่อมและยาวต่อเนื่องไปถึงเส้นใจใต้เนินเสาร์ สื่อว่าการดำเนินชีวิตความไม่ต่อเนื่องไปในระยะหนึ่งหลังจากนั้นจะมีช่องทาง หรือทางออกที่ดีและทำให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้ในที่สุด (ถ้าเส้นวาสนาลากขึ้นไปแล้วหยุดอยู่ต่ำว่าเส้นสมอง ไม่มีเส้นเชื่อมต่อให้ไปถึงเส้นใจ ก็คือคิดผิด ผิดพลาด ตัดสินใจผิด และการดำเนินชีิวิตพบกับความเสียหาย ไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้)
ในมือนี้ยังมีเส้นวาสนาในมือขวาอีกเส้น ตำแหน่ง A-1 ภาพประกอบ1 เส้นในมือขวามีความหมายอย่างไร (คลิกอ่านดูมือซ้ายคือธรรมชาติมือขวาคือปฏิบัติการ) มือขวาคือมือปฏิบัติ เส้นวาสนาเส้นนี้ลากขึ้นจากเนินจันทร์ไปถึงเส้นใจใต้เนินเสาร์ สื่อให้เห็นว่าทำได้สำเร็จ ลงมือทำด้วยตัวเองแล้วสำเร็จ เส้นวาสนาเส้นนี้มีความพิเศษคือเป็นเส้นวาสนาที่เรียกว่าเส้นวาสนาอุปถัมภ์ (เส้นวาสนาเกิดจากเนินจันทร์-เป็นเส้นโชคที่มักจำสำเร็จอะไรแบบพลิกผัน เหมือนที่เขาเรียกว่าเทวดาช่วยหรือคุ้มครอง -รวมถึงผู้ใหญ่ หรือใคร ๆ ก็ตามเป็นอุปถัมถ์ คู่ครองอุปถัมถ์ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น)
2.เส้น อาทิตย์ เรียกอีกอย่างว่าเส้นสำคัญ (เส้นหมายเลข 2) ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่เนินอาทิตย์ใต้นิ้วนาง หรือจะเกิดจากตำแหน่งใดในมือก็ได้แต่ปลายเส้นมาที่เนินอาทิตย์ ใครมีเส้นนี้มักจะเป็นคนสำคัญในสายตาของผู้คนหรือสังคม เพราะเจ้าของมือที่มีเส้นนี้มักจะมีชื่อเสียงได้ จะมีชื่อเสียงหรือเป็นคนสำคัญ หรือ มีความสำคัญในด้านใดก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเจ้าของมือและอิทธิพลของเส้น อื่น ๆ ประกอบ เส้นอาทิตย์ในแง่มุมของเจ้าของมือเองเป็นคนที่มีสติปัญญาดี มีความรู้ เฉลียวฉลาด เป็นคนชอบสังคม ชอบความสะดวกสบาย ความสวยงาม การเข้าถึงศิลปะ การเข้าถึงความสำเร็จได้ การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองโดยไม่ยากนัก จะสังเกตเห็นว่ามือคู่นี้มีเส้นอาทิตย์ทั้งสองมือ และยิ่งกว่านั้นยังมีเส้นอาทิตย์ถึงสองเส้นในมือขวา เนินอาทิตย์ในมือนี้ไม่นูนขึ้น เป็นร่องหรือยุบลงเล็กน้อย แต่ก็มีเส้นอาทิตย์ถึงสองเส้น หมายถึงการได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองหรือความสำเร็จใด ๆ ก็ด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้เกิดจากความโลภหรือการทำมาหาได้โดยเบียดบังหรือเอารัดเอาเปรียบ และอีกประเด็นคือจะต้องรอบคอบในการดำเนินชีวิต เพราะเนินอาทิตย์เป็นร่องแสดงถึงอาจมีเรื่องเสียหายเดือดร้อนได้ถ้าประมาท แต่ถ้าดำเนินธุรกิจหรือการดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบดีแล้วก็จะไม่มีอะไร เดือดร้อนเสียหาย (ไม่มีเส้นตัดขวางหรือตัดผ่านเส้นอาทิตย์)
3.เส้น พุธ (เส้นหมายเลข 3) อยู่ตรงเนินพุธใต้นิ้วก้อย เรียกได้หลายชื่อ เส้นการค้าก็เ้รียก บางตำราก็บอกเส้นการแพทย์ เส้นวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือเส้นสุขภาพ ผมเห็นว่าก็เป็นไปตามชื่อที่เรียกนั้นทั้งหมด ด้วยเพราะว่าใครก็ตามที่มีเส้นนี้มักจะเป็นคนที่สนใจเรื่องการค้าขาย การลงทุน ในขณะเดียวกันก็มักจะเป็นคนที่มีความคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ชอบค้นคว้าทดลอง(แบบนักวิทยาศาสตร์) ในขณะเดียวกันก็มักจะเป็นคนที่สนใจเรื่องสุขภาพหรือให้ความสำคัญเรื่อง สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การดำเนินชีวิต รวมถึงชอบศึกษาหาความรู้เรื่องสุขภาพไว้ใช้กับตัวเองและก็ยังแนะนำให้คนอื่น สนใจในสุขภาพเมื่อมีโอกาส ในขณะเดียวกันคนที่มีเส้นนี้มักจะเป็นนักพูดหรือมีความสามารถในการพูดจาโน้ม น้าวผู้อื่นให้คล้อยตามเห็นด้วย หรือเป็นนักพูดนักประชาสัมพันธ์ที่ดี(การพูดเป็น การพูดที่ดี คือหัวใจของความสำเร็จในทุก ๆ อาชีพการงาน)
4.เส้น ลาภ(เส้นหมายเลข 4 -เส้นคุ้มครองเป็นลาภ ความสุขความสำเร็จด้านครอบครัว) จะเกิดขึ้นในเนินศุกร์ บริเวณระหว่างเนินหลักทรัพย์กับเนินจันทร์ ใคร มีเส้นนี้มักจะมีความโชคดีและมีลาภลอยด้วย ช่วงที่ให้คุณมากที่สุดคือช่วงอายุหลัง 45 ปีไปแล้ว ชีวิตจะไม่ขาดพร่องด้วยเรื่องทรัพย์สินเงินทอง ในขณะเดียวกันก็จะโชคดีเรื่องชีวิตครอบครัว มีครอบครัวที่ดี เมื่อถึงบั้นปลายชีวิตได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบุตรธิดา ญาติมิตรหรือคนในครอบครัวเป็นอย่างดี (บาง คนอาจมองว่าเพราะมีทรัพย์สินเงินทองหรือไม่ใคร ๆจึงมาสนใจ อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกันก็ได้นะครับ ชีวิตของใครหลาย ๆ คนมีทรัพย์ก็มากมายแล้ว แต่กลับมีทุกข์ในบั้นปลายก็ได้ ลูกหลาน คนในครอบครัว ไม่เป็นสุข ไม่มีความสงบ มีปัญหาจิปาถะกันก็มีตัวอย่างอยู่มากมาย เงินทองบางทีก็เป็นตัวสร้างปัญหาขึ้นมาเป็นปัจจัยที่ทำให้ทุกข์ก็มีให้เห็น)
5.เส้นวางแผนล่วงหน้าสำเร็จ (เส้นหมายเลข 5) เป็นเส้นที่แยกจากเส้นใจลากเป็นแนวสโลปลงไปสัมผัสเส้นสมองใต้เนินพฤหัส (ไม่ ใช่หักลง หรือลงแนวดิ่ง แต่เป็นการเอียงลาดลง ถ้าเป็นเส้นหักลงกลับเป็นเส้นผิดหวังเสียใจ เปรียบได้ว่าไม่ร่อนลงจอด แต่เป็นการตกลงสู่พื้น) ในมือนี้ให้ไปดูที่มือซ้าย ภาพ A1 ใต้แนวนิ้วกลางมาหานิ้วชี้ ช่วงเนินพฤหัสในมือซ้าย จะสังเกตเห็นเส้นนี้สวยงามชัดเจน ใครก็ตามที่มีเส้นนี้จะเป็นคนที่มีความคิดถึงอนาคตระยะไกล เป็นนักวางแผนระยะไกล ๆ สาระสำคัญของเส้นนี้จะต้องเชื่อมกันระหว่างเส้น คือเป็นเส้นที่เชื่อมเส้นใจไปเชื่อมกับเส้นสมอง ใจเป็นต้นคิด สมองก็จะวางแผนเป็น ขั้นเป็นตอน เช่น 5 ปีต่อจากนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร จะทำอะไรให้สำเร็จหรือจะได้อะไร เมื่ออายุถึง 30 ปี 40 ปี 45 ปี จะเป็นอะไร จะทำอะไร เมื่ออายุ 50 ปี มีความพร้อมแบบไหนมีบ้านมีรถยนต์พร้อมอะไรทำนองนี้ คือเป็นคนที่มีการวางแผนไว้กับอนาคต ส่วนจะทำได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเส้นนี้ว่าชัดเจนต่อเนื่องไม่ขาดก็หมายถึง สำเร็จตามแผน ส่วนจะได้มากน้อยก็ดูเส้นอื่น ๆ ประกอบ ซึ่งก็ล้วนเป็นเหตุเป็นผลกันทั้งสิ้น คนที่มีแผนดีอย่างไร แต่ขาดการกระทำที่จริงจังต่อเนื่อง(ดูได้จากเส้นชีวิตและเนินในมือ) ขาดเครื่องมือและสติปัญญา(ดูได้จากเส้นสมอง เส้นใจ) ขาดโชควาสนาและแรงบันดาลใจ (ดูเส้นวาสนา เส้นอาทิตย์และเส้นรองอื่น ๆ ประกอบ) สำหรับในมือของ ดร.สหรัฐการวางแผนจะเป็นอย่างไรอ่านไปถึงตำแหน่งหมายเลข 9 แล้วท่านก็จะมีคำตอบได้ด้วยตัวท่านเอง
6.เส้นใฝ่สูง(เส้นหมายเลข 6) จะเรียกว่าเส้นใฝ่ดี เส้นทะเยอทะยาน บางตำราก็เรียกเส้นพฤหัส -Ambition ในภาษาอังกฤษ ก็แล้วแต่จะเรียก เส้นนี้จะมีลักษณะเชื่อมต่อจากเส้นชีวิตปลายเส้นเข้าไปในแนวเนินพฤหัส จะขึ้นตรง ๆ หรือเฉียง ๆ หน่อยก็ได้ หรือจะเกิดขึ้นลอย ๆ บนเนินพฤหัสก็ได้ แต่แบบแรกจะมีคุณภาพมากว่า ใครก็ตามที่มีเส้นนี้ในมือไม่ว่าจะเรียนน้อย เรียนมากก็มักจะมีสิ่งหนึ่งอยู่ในความคิดคำนึงเสมอคือความทะเยอทะยานที่จะมี ชีวิตที่ดีขึ้น และก็สามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นผู้นำในตำแหน่งหน้าที่ การงาน หรือสายงานที่ทำ สำหรับคนบางคนไม่มีความรู้เรียนจบเพียงชั้น ป.6 เส้นใฝ่สูงในมือของเขาทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถหรือเจ้าของ กิจการที่เขารักชอบใฝ่ฝันไว้ได้ หรือผู้หญิงบางคนสามารถเป็นเจ้าของร้านสปาได้ทั้งที่เริ่มต้นจากเป็นพนักงาน หรือลูกจ้างในร้านสปา
7.เส้นสมาธิ (เส้นหมายเลข 7)จะเรียกเส้น ความตั้งใจมุ่งมั่น หรือเส้นความต่อเนื่องทางอารมณ์ -Attention ก็สื่อได้ดี เส้นนี้จะเกิดที่เนินพฤหัส ปลายเส้นทิศทางเข้าไปเนินเสาร์ บางตำราก็เรียกเส้นอารมณ์ ใครก็ตามมีเส้นนี้มีในมือมักจะเป็นคนที่มีอารมณ์ทั้งทางบวกและทางลบประกอบ กันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย และพื้นฐานมือและเนินในมือด้วย ทางบวกคือเป็น คนที่มีความคิดคำนึงอยู่เป็นนิจว่าจะพัฒนาความเป็นอยู่ของตัวเอง ครอบครัว หรืออาจก้าวล้ำไปถึงการพัฒนาสังคม ประเทศชาติเข้าไปนั่นทีเดียว คือมีความวิตก เป็นห่วง เป็นกังวลกับการดำเนินชวิต ไม่เฉาะตัวเอง แต่ห่วงใยไปถึงญาติพี่น้องรวมถึงคนที่เกี่ยวข้องเข้าไปอีก หากไม่รู้จักแยกแยะหรือเข้าใจสถานะของตัวเองแล้วก็จะกลายเป็นคนที่มีอารมณ์ด้านลบคือเป็นคนเจ้าอารมณ์ไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเพราะเป็นคนแบกรับภาระไว้มากเกินตัว (หาภาระใส่ตัว) ความคิด หรือความวิตกกังวลนี้หากเป็นความพอเหมาะพอควร ประกอบกับความมีเหตุผล ประกอบกับความรู้ความสามารถ และประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ อย่างผสมผสาน ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้ หากจะเปรียบไปก็กว้างมาก เป็นต้นว่าใด ๆ ก็ตามจะเกิดขึ้นสำเร็จได้ต้องมีหลายเหตุหลายปัจจัยประกอบกันสมบูรณ์ เป็นต้นว่าฝนจะตกได้ก็ต่อเมื่อมีอะไรหลายอย่างมากประกอบกันจนครบเหตุปัจจัย เริ่มตั้งแต่ความร้อนที่ทำให้ไอน้ำระเหยเป็นไอขึ้นไปในอากาศ อุณหภูมิของชั้นบรรยากาศ ความชื้นสัมพัทธ์.... ฯลฯ ในทางหลักของพุทธศาสนาเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาทคือการที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกัน จึงเกิดมีขึ้น-เหตุปัจจัยหนึ่ง ๆ ทำให้เกิดหรืออาศัยกันเกิดจึงทำให้เกิดปัจจัยหนึ่งและมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่อง สรุป ก็คือว่าเป็นคนมีอารมณ์ รู้วิตกทุกข์ร้อน กับความเป็นอยู่ กับการดำเนินชีวิต ทั้งตัวเองและผู้อื่น ไม่ใช่เป็นคนอะไรก็ได้ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ส่วนจะทำให้ได้สำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูเส้นอื่น ๆ ประกอบเป็นเหตุปัจจัยดังที่กล่าวแล้ว คนที่มีเส้นลายมือในมือไม่ว่าจะเป็นเส้นหลักและเส้นรองอื่น ๆ ดีเป็นพื้นฐานอยู่แล้วเส้นนี้ก็จะเป็นแรงกระตุ้นหรือเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดผลสำเร็จได้เร็วขึ้น สังเกตเห็นว่าในมือ ดร.สหรัฐ มีเส้น Attention เกิดขึ้นในตำแหน่งนี้ทั้งสองมือ
8.เส้นหลักทรัพย์ (เส้นหมายเลข 8)เส้นแยกจากเส้นชีวิตเข้าเนินศุกร์ตำแหน่งหลักทรัพย์ ท่านที่มีเส้นแบบนี้ในมือก็มีโอกาสที่จะมีหลักทรัพย์มั่นคง ว่าด้วยสังหาและอสังหาริมทรัพย์ ใครเกิด มาไม่มีหลักทรัพย์มาก่อนหรือไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง หากมีเส้นแบบนี้ในมือก็สามารถสร้างหลักฐานมั่นคงขึ้นได้ด้วยตัวเอง (มือขวาคือมือปฏิบัติ) แต่ถ้ามีอยู่ก่อนก็จะสามารถรักษาทรัพย์สมบัติไว้และสร้างให้เจริญงอกงาม เพิ่มเติมเข้าไปได้อีก
9.เส้น คุ้มกัน (เส้นหมายเลข 9) เส้นนี้จะลากคู่ขนานกับเส้นชีวิตช่วงเนินอังคารต่ำ จะลากขนานเริ่มจากต้นเส้นชีวิตจนถึงตำแหน่งเนินศุกร์ก็มีในบางมือ ความ หมายก็เป็นไปตามชื่อเส้นคือชีวิตได้รับการคุ้มกันหรือคุ้มครองช่วยเหลือ หากเจ็บป่วยก็รักษาหาย หากชีิวิตประสบอุปสรรคปัญหาใด ๆ ก็มักจะมีใคร หรือมีอะไรเข้ามาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ชีวิตผ่านเรื่องยาก ๆ ไปได้ ในมือของ ดร.หสรัฐ เส้นดังกล่าวนี้มีในมือซ้าย ภาพ A1 ส่วนมือขวาก็มีแต่เป็นลักษณะของเส้นจากคือปลายเส้นลากห่างออก (ไม่ขนาน)กับเส้นชีวิต สื่อถึงการพลัดพรากจากครอบครัว จากคนรัก ด้วยภาระหน้าที่
อนึ่ง ผมได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นแล้วว่าจะนำลายมือของ ดร. ทั้ง 2 ท่านมาแสดงไว้ให้ได้ศึกษา ตอนนี้ได้เห็นลายมือของ ดร.สหรัฐ ไปแล้ว ส่วน ดร.ญี่ปุ่น จะได้นำมาให้ได้ศึกษาอีกครั้งหนึ่งในโอกาสหน้า ด้วยขณะนี้มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และท้ายที่สุดนี้ ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อท่านเจ้าของลายมือที่ได้อนุญาตให้นำภาพลายมือมา แสดงไว้เป็นวิทยาทาน.
อ.ธนพงศ์ หลักนครพล
ต่อ ไปนี้คือประวัติและบทความที่ผมได้ขออนุญาตให้ท่าน ดร.สหรัฐ ไ้ด้เขียนประวัติแบบย่อ ๆ และ มอบให้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจกับเยาวชนที่จะได้มีกำลังใจและฮึดสู้เพื่อเป้าหมายที่ สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในชีวิตได้ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะได้ส่งเสริม และให้กำลังใจกับลูก ๆ ซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง
ผมนำประวัติท่านมาลงตามที่ท่านเขียนให้ทั้งหมด จะมีการแก้ไขเพียงคำที่พิมพ์ผิด (ท่านออกตัวไว้แล้วว่าไม่เคยฝึกพิมพ์ภาษาไทยมาก่อน)
เรียน อ. ธนพงศ์
ยินดี ที่ได้รู้จักอาจารย์เช่นกันครับ. ก่อนอื่นไม่ต้องเรียกผมท่านรอกครับ เรียกชื่อก็พอครับ ผมก็คนธรรมดาใบปริญญาเป็นเพียงกระดาษใบเดียวผมยกให้ปริญญาชีวิตและผู้มี จริยธรรมศีลธรรมสำคัญกว่าเรียกว่ายกมือไหว้ได้เต็มใจ
ผมพิมพ์ภาษาไทยด้วยcomputer ไม่คล่องเรียกว่าแทบจะไม่ได้ใช้เลย(ไม่เคยใช้พิมพ์ดีดและcomputer ตอนอยู่เมืองไทย) ถ้าพิมพ์ผิดขออภัยไว้นทีนี้ด้วยครับ
ก่อน อื่นยินดีอย่างยิ่งถ้าประวัติของผมสามารถช่วยเป็นตัวอย่างกับทุกๆคน ผมก็อาศัยดูชีวิตคนอื่นที่ไม่ยอมแพ้มาเป็นกำลังใจและแรงกระตุ่นบ่อยๆ. จริงๆแล้วผมเป็นคนเรียนไม่เก่งเลยวิชาภาษาไทย,อังกฤษ,คณิตตกหมด มา เริ่มดูตัวเองตอนอยู่ ปวช ว่าอยากเป็นเรียนวิศว ตอนเห็นรุ่นพี่ๆ กลับมาเยี่ยมรุ่นน้องที่โรงเรียน ส่วนตัวเริ่มถามตัวเองว่าทำไมคนอื่นเรียนได้เราเรียนไม่ได้ตอนอยู่ ปวส เพราะเรียนยากขึ้นถ้าต้องการเป็นวิศกร คณิต ต้องได้ เลยต้องปูพื้นฐานใหม่เรียนซ้ำตอนsummer อีก สรุปตอนเรียน ป.ตรี เลยสบาย ที่นี้เลยได้เห็นว่าถ้าเรามีความตั้งใจเราก็สามารถทำได้ดี. มาตอนจะมา America นี่เรืองใหญ่ที่บ้านหัวเราะกันใหญ่เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นสักคำที่อยากมา เพราะคุณน้าแฟนเก่าอยู่America ถามตัวเองหลายครั้งมากว่ามาแล้วอยู่ได้ไหมกลัวไหม เมื่อได้คำตอบว่าได้ จึงตัดสิใจมาให้สัญญากับแม่ว่าแค่ 2-3ปี พอมาแล้วก็เจอเพื่อนที่ดีๆ มากถือว่าโชคดี แล้วก็ใช้วิชาเก่าฮึดสู้ถ้าคนอื่นกิน นอนเหมือนเราเขาทำได้เรียนได้ เราก็ต้องทำได้ แต่ อาจจะไม่ดีเท่าเขาแต่เราก็ถือว่าได้ทำแล้วทำดีที่สุดแล้ว ผมจะคอยถามตัวเองตลอดว่าทำดีที่สุดแล้วหรือยัง ถ้ายังทำให้ดีกว่าเก่าได้ใหม ที่ผิดพลาดถือว่าเป็นครู อะไรอย่างนี้เป็นต้น. สิ่งหนึ่งที่คอยเป็น กำลังใจผมมากที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่และพี่น้อง ผมไม่สามารถมาถึงตรงนี้ได้ถ้าไม่มีแม่คอยให้กำลังใจและโอกาสกับลูกๆทุกคนที่ ต้องให้มีการศึกษาสูงๆไม่ใช่แค่ ป.4 เหมือนพ่อและแม่ ดังนั้นถ้าผมยอมแพ้นั้นเหมือนผมทำให้ทุกคนผิดหวังและเสียเงินจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์
ผม หวังว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสกลับไปสอนหนังสือในระดับ ปวช,ปวส เพื่อที่จะให้พวกเขาเหล่านั้นได้คิดและมีความหวังไม่เห็นว่าพวกเขาเหล่านั้น ด้อยกว่านักศึกษามหาลัยเลยสักนิดเดียว และอยากให้ทุกๆคนเห็นความสำคัญของครอบครัว บุคลากรของชาติเริ่มจากพื้นฐานของครอบครัวที่มีความรักความอบอุ่นไม่ใช่ ทรัพย์สินเงินทองที่ครอบครัวมี
ท่านได้เขียนถึงผมเพื่อยืนยันการเผยแพร่ลายมือเป็นวิทยาทานดังนี้ครับ
เรียน อ. ธนพงศ์
ผมเขียนประวัติพอสังเขป
ผมเป็นคนสมุทรสาครโดยกำเนิดทางบ้านทำอาชีพประมงเลี้ยงกุ้งธรรมชาติเรียนรู้ วิธีจับกุ้ง,ปูทะล,หอยแคลง,หอยพิม จากคุณพ่อตั้งแต่เด็ก. ที่บ้านและวังกุ้งอยู่ติดทะเลปากอ่าวสมุทรสาคร ช่วงปิดเทอมผมและน้องชายจะออกหารายได้พิเศษจากการหาจับสัตว์ข้างต้นทานดัว ยและที่เหลือก็ขายมีรายได้1000-2000บาทนี่เป็นสิ่งที่ดีที่ได้เรียนรู้มา ตั้งแต่เด็กๆ
- ประถมเรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้าน ชื่อโรงเรียนบ้านชายทะเลโคกขามที่95
- มัธยมต้นที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา. เลือกเรียนสายวิชาชีพคหกรรมเช่นเย็บปักและทำกับข้าว นี่ใช้ได้ดีมากๆที่ America
- มัธยมปลาย1ปีเท่านั้นที่โรงเรียนวัดราชโอรส ตอนเรียนมาเป็นเด็กวัด วัดโกรกกราก กับน้องชายตอนเช้านั่งรถไฟจากมหาชัยกับเด็กวัดอีก3คน ได้เรียนรู้หลายๆอย่างมากๆจากการเป็นเด็กวัด. น้องชายเป็นเด็กวัดและเรียนที่วัดราชโอรสจนจบ ม.6 ส่วนผมย้ายไปเรียนช่างกล
- เริ่มเรียนใหม่ที่ช่างกลสยาม (โรงเรียนเทคโนโลยีสยาม) ป.ว.ช ทางด้านช่างยนต์. เริ่มถามตัวเองและมีความหวังอยากเป็นวิศวกร
- ต่อ ป.วสที่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ. สาขาช่างยนต์
- ต่อ ป ตรี สถาบันเทโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตเทเวศน์ ครุศาตร์เครื่องกล(คอบ) , 1995
- เดินทางมา America เรียนภาษา1ปี ทำงานทุกอย่างเพื่อหารายได้เพื่อลดภาระทางบ้าน แต่ค่าเทอมยังขออยู่
- แล้วจึงต่อ ป. โท ที่ George Washington University , Washington DC.Major Master of Engineering Management ( Manufacturing Management) จบปี1998
- เริมเรียน ป. โท. บอกให้ทางบ้านหยุดส่งเงินช่วยทั้งหมด และได้ส่งเงินกลับบ้านเพื่อเป็นการช่วยทางบ้านบ้าง
- จบ ป. โท แล้วยังมีหนี้ที่มหาลัยที่ยังไม่จ่ายค่าเทอม ประมาณ 800,000บาท เลยเป็นเด็กเก็บจานร้านอาหารเต็มตัวเพื่อเก็บเงินใช้หนีและสะสมไว้ต่อป. เอก สาเหตุที่ต่อเพราะยังไม่อยากกลับอยากจะอยู่ต่อเพื่อหางานทำและขอทุนคืนก่อน กลับเมืองไทย
-ปลาย ปี1999 ย้ายจากDC มาเรียนที่Florida ที่ Florida Atlantic University, Major Manufacturing System Engineering, ก่อนจบในปี2003คุณแม่เสีย อาจารย์ที่ปรึกษามีปัญหา ต้องเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาใหม่เลยต้องเสียเวลาอีก1ปีแล้วถึงจบในปี2004
- ย้ายไปเป็นพ่อครัวหลังจากจบ ป. เอก1ปีที่ Chicago แล้วจึงย้ายกลับมาอยู่ที่Florida เพราะเจ้านายคนปัจจุบันต้องการเปิดร้านแต่ก็ไม่ได้ทำ. บริษัทเริ่มยุ่งและต้องการคนช่วยทางด้านการผลิตเลยถูกดึงมาใช้งาน as Manufacturing Engineer , Production Manager and Director New Product Development
ตอนนี้เริ่มว่างขึ้นประกอบกับมีคนช่วยงานมากขึ้นเลยเริ่มสร้างร้านอาหารซึ่งน่าจะเปิดได้ในเดือนมีนาคมปีหน้านี้
ก็ขอขอบพระคุณในการให้ประวัติของท่านเพื่อเป็นวิยาทานและสร้างแรงบันดาลใจให้กับใคร ๆ อีกหลายคน ด้วย บุญกุศลวิทยาทาน ที่ท่านได้ทำกระทำในครั้งนี้ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ จงดลบันดาลและคุ้มครองให้ท่านและครอบครัว จงปลอดภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ และเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุข พละ ทุกประการเทอญ.
อ.ธนพงศ์ หลักนครพล
25/12/2554
คลิกอ่าน ลายมือได้ทุนเรียนปริญญาเอก
เรียนที่ประเทศญี่ปุ่น